เลือกหน้า

เรียนชงกาแฟ พิจิตร ร้านกาแฟ พิจิตร

“เรียนชงกาแฟ พิจิตร”

สูตรเปิดร้านกาแฟ แนวรุก

เรียนชงกาแฟ พิจิตร

เรียนชงกาแฟ พิจิตร สูตรของเราไม่ได้สอนให้คุณชงกาแฟให้อร่อยที่สุด แต่เราสอนให้คุณ เปิด ร้านกาแฟ พิจิตร แล้วต้องอยู่รอด ยั่งยืน วัดผลได้

เรียนชงกาแฟ รสชาติอร่อย

สูตรชงกาแฟอร่อย ยังไม่พอ

สงสัยไหมว่า ร้านกาแฟ พิจิตร ที่เปิดๆกันนั้น ทุกร้าน มีความมั่นใจว่า รสกาแฟ สูตรชงกาแฟ ของตัวเองอร่อย แต่ทำไม ถึงไปไม่รอด ทั้งๆที่กาแฟอร่อยรสชาติดี

เรียนชงกาแฟ หลายสูตร

เครื่องชงกาแฟสดแพง ดีไหม

เครื่อง ชงกาแฟสด หลักแสน ไม่ใช่ไม่ดี แต่มันเหมาะกับการเริ่มต้น เปิดร้านกาแฟ พิจิตร ของคุณ หรือ ป่าว มีไว้อวดหรือมีไว้ชง

เรียนชงกาแฟ สูตรพิเศษ

ทำเลดี แต่ขายไม่ได้

ทำเลดีๆนั้นไม่ใช่เป็นของคุณคนเดียว ทำเลดีๆก็เป็นของ ร้านกาแฟ อื่นๆ ที่ใกล้กับ คุณเหมือนกัน แล้ว คุณมีอะไร ที่ดีกว่าไหม ?

ถ้าคุณคิดจะ เปิด ร้านกาแฟ พิจิตร

ก่อนที่คุณจะตัดสินใจ ลงทุน เรียนชงกาแฟ พิจิตร หรือ ลงทุน เปิดร้านกาแฟ เราอยากให้คุณ อ่านเรื่องราวจากประสบการณ์ ตรง ที่อยากจะบอกเล่า ซึงอาจจะ เป็นประโยชน์ ต่อ คนที่อยากจะเปิด ร้านกาแฟ พิจิตร อย่างคุณ เมื่อคุณ อ่านจบ คุณอาจเปลี่ยนใจ เก็บเงินไว้เพื่อ ทำอย่างอื่น ก็เป็นได้

เปิดร้านกาแฟ ไม่ง่าย

เปิด ร้านกาแฟ พิจิตร ไม่ยาก แต่เปิดแล้วอยู่รอด ไม่ง่าย

   ร้านกาแฟ พิจิตร เป็นความฝันของคนหลายคน ที่อยากจะมีธุรกิจส่วนตัว ในสิ่งที่ตัวเองชอบ หรือ อาจจะหลงใหลกับรสชาติและบรรยากาศของ ร้านกาแฟ ที่เราเคยไป ก่อนที่เราจะคิด เปิด ร้านกาแฟ พิจิตร เป็นของตัวเอง ทุกคนก็ต้องไปนั่งชิว ร้านกาแฟ ของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็น ร้านกาแฟ ยี่ห้อดัง หรือ ร้านแนว Home Coffee ที่จัดบรรยากาศให้น่านั่ง พร้อม เครื่องชงกาแฟ สุดอลังการ สิ่งเหล่านั้น ทำให้เรา นั่งฝัน ว่าสักวันหนึ่ง เราจะ เปิด ร้านกาแฟ พิจิตร แบบนี้ ให้ได้ 

   

   แต่ความจริงกับความฝัน มันต่างกันเหลือเกิน การเปิดร้านกาแฟ ในโลกความเป็นจริง มีหลายสิ่งที่เราลืมคิด เพราะคนส่วนใหญ่จะไปคิดว่า ต้องดีที่สุด เครื่องชงกาแฟ ต้องดีที่สุด สูตรกาแฟต้องอร่อยที่สุด บรรยากาศร้านกาแฟต้องน่านั่งที่สุด เพราะเรา เอาประสบการณ์ จากที่เราเคยไปดูร้านกาแฟที่เราชอบ มาปรับปรุงในแบบสไตล์ของเราเอง และ คำว่าดีที่สุดนั้น ทำให้ต้นทุนมันเกินกว่าที่คิดไว้เสมอ

คิดเปิดร้านกาแฟ ต้องคิดเยอะๆ

เปิด ร้านกาแฟ พิจิตร มาเพื่ออะไร ?

   ถ้าคุณ เปิด ร้านกาแฟ พิจิตร เพราะความชอบ อยากให้คนมากินประทับใจ อยากให้คนเห็น เครื่องชงกาแฟ ที่อลังการ อยากให้คนมานั่งที่ร้านคุณเพื่อชมบรรยากาศ นานๆ โดยที่คุณ ไม่ได้กำไรกับร้านกาแฟแห่งนี้  ถ้าคุณไม่เดือดร้อนเรื่องการเงิน นั้นก็ถือว่าเป็นความสุข ที่คุณได้ เปิดร้านกาแฟ ถือว่าเป็นงานอดิเรก ได้แบ่งปันความสุขให้กับลูกค้าและคนอื่นๆถือว่าประสบความสำเร็จ

เรียนชงกาแฟ เปิดร้านกาแฟ

แต่ถ้าคุณ เปิดร้านกาแฟ มาเพื่อทำกำไร ทำธุรกิจส่วนตัว คุณจำเป็นต้องคิดมากกว่านั้น

   เพราะถ้าคุณไม่คิดและคุณไม่ได้ เปิด ร้านกาแฟ พิจิตร มาเพื่อเป็นงานอดิเรก ไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง แล้วถ้าคุณลงทุน โดยไม่คิดให้ดี ร้านกาแฟของคุณ จะอยู่รอด ได้นานแค่ไหน เพราะทุกอย่างมันมีรายจ่าย แล้วถ้าถึงจุดที่คุณจ่ายไม่ไหว คุณก็ต้องเลิก คุณรู้ไหมว่า ความฝันของคนที่อยากจะ เปิด ร้านกาแฟ พิจิตร มีมากแค่ไหน มันไม่ใช่เพียงแค่คุณเท่านั้น

ขายอุปกรณ์กาแฟ

 ความฝันมือสอง

   ถ้าคุณพอมีเวลา คุณลองเข้าไปดูเว็บประเภทขายของมือสองหรือใน กลุ่ม Facebook ที่ขายของมือสองประเภท เครื่องชงกาแฟ อุปกรณ์กาแฟ เซ้งร้านกาแฟ คุณจะเห็น ผู้คนที่ฝันสลาย จากการ เปิดร้านกาแฟ แล้วสุดท้ายเขาต้องเอา ความฝันของเขามาขายต่อ ให้กับคนที่ฝันจะเปิดร้านกาแฟรายต่อไป

แล้วถ้า

คุณลอง สอบถาม ติดต่อขอซื้อ ลองถามเขาว่า ทำไมถึงขาย เครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์ คุณก็จะได้รับเหตุผลหลายอย่าง ตัวอย่างหนึ่งที่จะเห็นเป็นประจำ เจ้าของร้านจะบอกว่า จริงๆก็ขายดีนะ แต่ไม่มีเวลาดูแล หาลูกจ้างที่ไว้ใจทำยาก อีกอย่างนึง จะย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่น เลยจำเป็นต้องขาย 

เครื่องชงกาแฟ มือสอง

เครื่องชงกาแฟ สภาพใหม่ คุ้มสุดๆ

   ถ้าคุณสังเกตุดีๆจะพบบางอย่างจาก คำตอบของพวกเขา ตอนประกาศบอกว่า ขาย เครื่องชงกาแฟ พร้อมอุปกรณ์ สภาพ 95 % ผ่านการใช้งานน้อย ประกันยังเหลือ และ คุณเห็นสภาพเครื่องคุณก็จะพอใจ เพราะมันยังใหม่จริงๆ ประกันก็ยังเหลือจริงๆ เราโชคดีจริงๆ ที่ได้ซื้อของใหม่ 

   แต่ถ้าคุณลองย้อนกลับไป ตอนที่โทรสอบถาม ว่า ทำไมถึงขาย เครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์ คำตอบที่เขาเคยตอบว่า “จริงๆก็ขายดีนะ แต่ไม่มีเวลาดูแล หาลูกจ้างที่ไว้ใจทำยาก อีกอย่างนึง จะย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่น เลยจำเป็นต้องขาย” 

คุณสังเกตุเห็นอะไรไหม ?

ขายดีแล้วทำไมถึงเลิกล่ะ?

ขายดี มีเงินจ้าง ลูกจ้างน่ะ หาไม่ยากหรอก ถ้ามีเงิน

ขายดี แล้วทำไม เครื่องกาแฟ อุปกรณ์ ยังใหม่กริป ถ้าขายดีจริงๆคงไม่ใหม่ขนาดนี้

   และที่สำคัญ คุณจะประเมินได้ทันทีจาก การรับประกันเครื่องกาแฟที่ยังเหลือ เช่น ของใหม่ออกศูนย์ รับประกัน 1 ปี แล้วที่เขาขายให้กับคุณ ประกันยังเหลือเท่าไหร่นั้น เช่น ยังเหลือ 6 เดือน คือ ประมาณการได้ว่า เขาเปิดร้านกาแฟมาประมาณ 6 เดือน แล้วเจ๊งจึงเลิกไงครับ 

เปรียบเทียบความฝันของคุณ

   ถ้าคิดสักนิดจะเห็นความจริงอีกหลายอย่าง แค่ลองเปรียบเทียบ ความฝันของคุณ กับฝันสลาย ของเขา ว่ามีอะไรต่างกันไหม แล้วทำไมเขาถึงเลิก ทำเลขายของเขา สูตรของเขา การจัดร้านกาแฟของเขา โปรโมชั่นของเขา คู่แข่งที่ใกล้ๆของเขา และแนวทางการทำตลาด ทั้งหมดเป็นอย่างไร

    แล้วถ้าเกิดคุณเปรียบเทียบแล้ว ปรากฏว่า แผนการ เปิดร้านกาแฟ ของคุณ ดีกว่าของเขา อันนี้ก็ยังพอมีความหวัง แต่ถ้าไม่ อันนี้ก็ควรนำมาคิดให้หนักก่อนที่คุณจะลงทุน เพราะถ้าเกิด ลงทุนเปิดร้านกาแฟ ไปแล้ว คุณอาจจะเป็นคนที่ฝันสลายรายต่อไป และต้องนำอุปกรณ์ เครื่องชงกาแฟ มาประกาศขาย ให้กับ คนที่มีความฝันจะเปิดร้านกาแฟ รายต่อไป

เปิดร้านกาแฟให้สำเร็จ

ลองดูสาเหตุที่ทำให้ ร้านกาแฟ ไปไม่รอด

นีคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้น กับคนที่ ฝันจะเปิดร้านกาแฟ และเป็นเรื่องจริงสำหรับ คนที่ฝันสลาย ไม่เชื่อคุณลองไปเปิดดู เว็บ หรือกลุ่ม face ของ เครื่องชงกาแฟ อุปกรณ์กาแฟ เซ้งร้านกาแฟ ดูสิครับ คุณจะเห็น เครื่องชงกาแฟ ตั้งแต่เล็ก ราคาไม่กี่บาท จนไปถึง เครื่องกาแฟ หลายแสนบาท ที่สำคัญ จำนวนเยอะมากๆ แปลว่ามีคน ฝันสลายกับการ เปิดร้านกาแฟจำนวนมาก 

และ ถ้าคุณหาข้อมูลการ ผิดพลาด ที่ทำให้ การเปิดร้านกาแฟแล้วไปไม่รอด เจ๊ง ใน pantip จะมีการเสนอข้อคิดเห็นกันหลากหลาย แต่มี การสรุปแบบย่อๆ เข้าใจง่าย ของ กระทู้หนึ่ง 

https://pantip.com/topic/38733780 

ได้กล่าวว่า

วิเคราะห์สาเหตุของร้านกาแฟไปไม่รอดว่าน่าจะมาจากปัจจัยต่อไปนี้

1.คิดไม่ออกเปิดร้านกาแฟ เรียนสูตรจากร้านขายเครื่องชง =เจ๊ง

2.ไม่รู้จักกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง =เจ๊ง

3.ทำเลไม่ดี=เจ๊ง

4.ไม่มีที่จอดรถ ถ้าทำไม่ดีจริง =เจ๊ง

5.พนักงานไม่ใส่ใจลูกค้า บริการไม่ดี พูดไม่เพราะ ร้านกาแฟข้างทางหรือเปิดเป็น Shop ไม่ใช่แบรนด์ดัง =เจ๊ง

6.รสชาติห่วยแตก กินครั้งเดียวโยนทิ้ง =เจ๊ง

7.ร้านไม่สวย ไม่น่านั่ง ไม่น่าเข้า แถมบริการแย่ =เจ๊ง

8.เจ้าของร้านกู้เงินมาลงทุน ขายไม่ดี ทุนไม่ถึง แบกรับขาดทุนระยะยาวๆไม่ได้ =เจ๊ง

9.เจ้าของร้าน ไม่สนใจพนักงาน ไม่สนใจร้าน ปล่อยพนักงานทำกันเอง โดนโกงบ้าง ขโมยบ้าง =เจ๊ง

10.เจ้าของร้าน ใจออก ทำไปก็เสียเวลา =เจ๊ง

11.พนักงานเงินเดือนไม่สมน้ำสมเนื้อ =เจ๊ง เช่นกรณีร้านขายดี แต่เจ้าของกดเงินเดือน ไม่มีค่าคอมให้พนักงาน เสี่ยงที่เด็กจะลาออก

12.พนักงานไม่รักในร้าน =เจ๊ง ถ้าขนาดพนักงานยังไม่รักร้าน ไม่รักเรา แล้วเราจะหวังให้ลูกค้ารักเรา ซื้อสินค้ากับเราได้ยังไง ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นด้วยพนักงานทั้งนั้น!

นั่นหมายความว่าการเปิดร้านกาแฟที่จะประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย

 

แฟรนไชส์กาแฟ เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนพร้อมลงทุน

ถ้าคุณมีงบประมาณเงินทุน พร้อมสำหรับ การเปิดร้านกาแฟ แบบมืออาชีพ แฟรนไชส์กาแฟ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะพลังของ แบรนด์กาแฟ ที่ติดตลาด ทำให้คนเชื่อมั่นและมั่นใจในบริการและรสชาติ ของกาแฟ แน่นอน ทั้งนี้ทั้งนั้น ความสำเร็จก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆด้วย

ลองมาชมว่า ค่าใช้จ่าย เรียนชงกาแฟ งบประมาณ ที่จะเปิดร้านกาแฟ กับ แฟรนไชส์กาแฟ  ดังๆ นั้น มีค่าใช้จ่ายประมาณ เท่าไหร่ คลิกชมที่หัวข้อด้านล่างได้เลยครับ

เรียนชงกาแฟ กับระบบ แฟรนไชส์ดัง คลิกชม

แฟรนไชส์ กาแฟ ดัง

ถ้าคุณไม่เกี่ยงเรื่องงบประมาณ ในการเริ่มต้นธุรกิจกาแฟของคุณ การ เรียนชงกาแฟ กับ แฟรนไชร์ เพื่อเปิดร้านกาแฟ แบบเป็นระบบ มีความเป็นมืออาชีพ พร้อมกับถ่ายถอดประสบการณ์ เกี่ยวกับ เรื่องกาแฟและการตลาด ลดการเสียเวลาลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง เหมาะกับผู้ที่ต้องการเปิดร้านกาแฟ อย่างจริงจังเพื่อการลงทุน เพราะแฟรนไชส์แต่ละแบรนด์นั้น เตรียมทุกอย่างให้คุณหมดแล้ว คุณเพียงแค่ศึกษาข้อมูลของแต่ละแฟรนไชส์ให้เข้าใจ และเตรียมเงินสำหรับลงทุนให้พร้อม เท่านี้ คุณก็สามารถมีธุรกิจร้านกาแฟของตัวเองได้แล้ว

ร้านกาแฟ อเมซอน

  • เรียนชงกาแฟ แฟรนไชส์ Café Amazon

ร้าน กาแฟ ยอดนิยมของคนไทย ซึ่งปัจจุบันเราจะเห็น Café Amazon อยู่ในปั๊มปตท. เกือบทุกปั๊มเลยก็ว่าได้ โดยแรงบันดาลใจในการก่อตั้งของร้าน Café Amazon นั้นมาจากแหล่งกาแฟที่มีชื่อเสียงของโลก คือประเทศบราซิล ซึ่งเป็นต้นตำรับแห่งกาแฟ ผนวกกับเมื่อคิดถึงป่า Amazon ก็จะคิดถึงความร่มรื่นของธรรมชาติอันประกอบด้วยแมกไม้และเสียงน้ำไหลที่ให้ความร่มเย็น ร้าน Café Amazon จึงมีแนวคิดที่อยากให้เป็นร้านกาแฟที่สามารถนั่งพักผ่อนระหว่างการเดินทาง หรือเป็นแหล่งนัดพบของกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่นิยมดื่มกาแฟที่มีรสชาติอร่อยเข้มข้น พร้อมบรรยากาศเย็นสบายด้วยร่มไม้ล้อมรอบ

รายละเอียด : งบประมาณการลงทุน เรียนชงกาแฟ สำหรับเปิดร้าน มีให้เลือก 2  รูปแบบ คือ

  • Stand Alone ขนาดพื้นที่ 100 – 200 ตร.ม. ขึ้นไป (รวมสวนหย่อม) ร้านจะมีลักษณะเป็นอาคารเดี่ยว ตั้งอยู่บนที่ดินที่มีศักยภาพเพียงพอและมีความเหมาะสมต่อการเปิดธุรกิจร้านกาแฟ Café Amazon รวมราคาตั้งแต่ค่าก่อสร้าง จนถึงค่าอุปกรณ์ทั้งหมด (ไม่รวม VAT) 2,649,000-4,209,000 บาท
  • Shop ขนาดพื้นที่ 40 ตร.ม. ขึ้นไป (ตั้งอยู่ภายในอาคาร เช่น อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า อาคารพาณิชย์ ฯลฯ และต้องมีผู้คนผ่านไปมาไม่น้อยกว่า 3,000 คนต่อวัน) รวมราคาตั้งแต่ค่าก่อสร้าง จนถึงค่าอุปกรณ์ทั้งหมด (ไม่รวม VAT) 2,349,000-3,709,000 บาท

ปล. ค่า Royalty Fee + ค่า Marketing Fee : 3% + 3% ของยอดขายรายเดือน, ค่าเช่าเครื่อง Point of Sale (POS) : 24,000 บาท/ปี, อายุสัญญา 6 ปี (Renovate ร้านทุก 3 ปี)

สนใจรายละเอียด เพิ่มเติม

http://www.cafe-amazon.com/

 

ร้านกาแฟ ชาวดอย

  • เรียนชงกาแฟ แฟรนไชส์ Chao Doi Coffee

ด้วยคำนิยามจาก เมล็ดกาแฟดิบ ไปสู่การ “คั่ว” ด้วยกลิ่นหอมอันยั่วยวน และรสชาติ “เข้ม” ที่โดดเด่นจากเมล็ดกาแฟคั่ว “ชาวดอย” ได้เกิดมาจากความพิถีพิถันในการคัดสรรเมล็ดกาแฟดิบคุณภาพสูง และกระบวนการคั่วสูตรเฉพาะของ “ชาวดอยคอฟฟี่” ทำให้ได้กาแฟที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ และรสชาติที่กลั่นออกมาจากใจสู่คุณ…ลูกค้าจะมั่นใจได้เลย ว่ารสชาติ และคุณภาพของกาแฟสดชาวดอยนั้น แน่นทุกแก้วจริงๆ

รายละเอียด : งบประมาณการลงทุน เรียนชงกาแฟ (แล้วแต่ขนาดของธุรกิจ)

  • Coffee (กาแฟ)
    • Coffee Set A 329,500 บาท
    • Coffee Set B 350,500 บาท
    • Coffee ชุดตู้ขาย A – 408,500 บาท
    • Coffee ชุดตู้ขาย B – 473,500 บาท
    • ชุดการขาย S ขนาดพื้นที่ 11.50 ตรม. : ค่าโครงสร้างโดยประมาณ 300,000 บาท และค่าชุดธุรกิจ 430,000 บาท
    • ชุดการขาย M ขนาดพื้นที่ 23.40 ตรม. : ค่าโครงสร้างโดยประมาณ 600,000 บาท และค่าชุดธุรกิจ 430,000 บาท
    • ชุดการขาย L ขนาดพื้นที่ 59.30 ตรม. : ค่าโครงสร้างโดยประมาณ 1,200,000 บาท และค่าชุดธุรกิจ 430,000 บาท
  • Bubble Tea (ชานมไข่มุก)
    • Bubble Tea Set A 265,000 บาท
    • Bubble Tea Set B 429,500 บาท
    • Bubble Tea ชุดตู้ขาย A 174,500 บาท
    • Bubble Tea ชุดตู้ขาย B 195,500 บาท
  • Coffee (กาแฟ) & Bubble Tea (ชานมไข่มุก)
    • ชุดบูธ 447,500 บาท
    • ชุดการขาย S ขนาดพื้นที่ 11.50 ตรม. : ค่าโครงสร้างโดยประมาณ 300,000 บาท และค่าชุดธุรกิจ 465,000 บาท
    • ชุดการขาย M ขนาดพื้นที่ 23.40 ตรม. : ค่าโครงสร้างโดยประมาณ 600,000 บาท และค่าชุดธุรกิจ 465,000 บาท
    • ชุดการขาย L ขนาดพื้นที่ 59.30 ตรม. : ค่าโครงสร้างโดยประมาณ 1,200,000 บาท และค่าชุดธุรกิจ 465,000 บาท

ปล. ราคาที่ เรียนชงกาแฟ พิจิตร กล่าวมารวม VAT แล้ว และคุณยังได้รับการอบรม การส่งเสริมการตลาด ตลอดจนคำปรึกษา การช่วยเหลือในการทำธุรกิจ

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม

http://www.chaodoicoffee.com

ร้านกาแฟ coffee today

  • เรียนชงกาแฟ แฟรนไชส์ Coffee Today

คอฟฟี่ ทูเดย์ ยึดหลักคำกล่าวที่ว่า “กาแฟทุกแก้วมาจากแรงบันดาลใจ” ซึ่งมีการคิดค้นสูตรกาแฟสดที่สามารถทำให้คนไทยบริโภคได้อย่างถูกปาก ด้วยราคาที่ไม่แพง จึงเกิดเป็นกาแฟสดสูตรอย่างไทย ที่หอม ละมุน กลมกล่อม และไม่เข้มจัด ทำให้ทุกคนสามารถดื่มได้ง่าย

รายละเอียด : รูปแบบร้านแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ

  • Kiosk ใช้พื้นที่ประมาณ 4-10 ตร.ม. จะเน้นให้บริการลูกค้าแบบ Take-Away
  • Conner ใช้พื้นที่ประมาณ 10-20 ตร.ม. จะเน้นให้บริการลูกค้าแบบ Take-Away และ Sit-in โดยจะมีเฟอร์นิเจอร์สำหรับรองรับลูกค้า แต่แค่ไม่กี่ชุด
  • Shop ใช้พื้นที่ตั้งแต่ 21 ตร.ม. ขึ้นไป จะเน้นให้บริการลูกค้าได้ทุกรูปแบบ และมีเฟอร์นิเจอร์ แบบเต็มรูปแบบไว้ให้บริการลูกค้า

ในส่วนของงบประมาณการ เรียนชงกาแฟ อยุธยา ลงทุนนั้น ได้แก่

  • ค่าแฟรนไชส์ 30,000 บาท สำหรับสัญญา 3 ปี (ในกรณีต่อสัญญา ปีที่ 4 จะเรียกเก็บอีกครั้ง)
  • ค่าโลแยลตี้ สำหรับการดำเนินธุรกิจภายใต้ แบรนด์ Coffee Today รายปี ปีละ 30,000 บาท
  • เงินประกันสัญญาแฟรนไชส์ 50,000 บาท (จะได้คืนเมื่อหมดสัญญา)
  • เงินลงทุนในการก่อสร้าง ตกแต่งร้าน เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆในร้าน เริ่มตั้งแต่ 450,000 – 750,000 บาท ขึ้นอยู่กับรูปแบบร้าน และพื้นที่ร้าน
  • ค่าวัตถุดิบต่างๆ ในการเริ่มต้นธุรกิจ 20,000 – 30,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม

http://www.coffeetoday-shop.com

 

ร้านกาแฟ ดอยช้าง

 

  • เรียนชงกาแฟ แฟรนไชส์กาแฟดอยช้าง

กระบวนการผลิตและแปรรูปกาแฟดอยช้าง ถูกคัดสรรจนได้ขั้นตอนที่เหมาะสมที่สุดในการสร้างสรรค์รสชาติจนทำให้กาแฟของดอยช้างเป็นกาแฟอราบิก้าชนิดพิเศษ ที่ปลูกเฉพาะบริเวณดอยช้างเท่านั้น โดยได้ตรารับรองมาตรฐานระดับสากลมากมายด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตรงกลิ่นที่หอมเป็นพิเศษ เจือรสเปรี้ยว (กรดจากผลไม้) ที่ดื่มแล้วทำให้รู้สึกชุ่มคอ มีสารคาเฟอีนต่ำ มีรสชาติที่กลมกล่อม เป็นความลงตัวระหว่างพื้นที่เพาะปลูกกับลักษณะภูมิประเทศที่เป็นที่สูงและมีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ประกอบกับการดูแลเอาใจใส่ในทุกขั้นตอน ทำให้ได้กาแฟอราบิก้าที่มีคุณภาพสูง ดังคำกล่าวที่ว่า “กาแฟดอยช้าง เอกลักษณ์กาแฟไทย สุดยอดกาแฟโลก”

รายละเอียด : รูปแบบร้านแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ

  • Coffee Venue
    • พื้นที่ : 30-100 ตรม.
    • ค่าก่อสร้างและตกแต่ง : 400,000 – 1,500,000 บาท
    • ค่าออกแบบ ( 8% ของราคาก่อสร้าง) : 32,000 – 120,000 บาท
    • เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์เครื่องชงกาแฟและ POS : 840,000 บาท
    • ค่าประกันแบรนด์ : 100,000 บาท
    • ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ : 150,000 บาท
    • อุปกรณ์การขายและสต็อคเริ่มต้น : 50,000 บาท
    • ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด : 30,000 บาท
    • ประมาณการลงทุนรวม : 1,602,000 – 2,790,000 บาท
  • Stand Alone
    • พื้นที่ : 60-130 ตร.ม.
    • ค่าก่อสร้างและตกแต่ง : 1,000,000 – 2,000,000 บาท ไม่รวมสวนหย่อม
    • ค่าออกแบบ ( 8% ของราคาก่อสร้าง) : 80,000 – 160,000 บาท
    • เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์เครื่องชงกาแฟและ POS : 849,000 บาท
    • ค่าประกันแบรนด์ : 100,000 บาท
    • ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ : 150,000 บาท
    • อุปกรณ์การขายและสต็อคเริ่มต้น : 50,000 บาท
    • ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด : 30,000 บาท
    • ประมาณการลงทุนรวม : 2,269,000 – 3,340,000 บาท

ปล. ค่า Royalty Fee คำนวณจากขนาดของร้าน : 30 – 50 ตรม. 5,000.- / เดือน, 54 – 100 ตรม. 8,000.- / เดือน, 101 ตรม. ขึ้นไป 12,000.- / เดือน ส่วนอายุสัญญามีระยะเวลา 5 ปี

เรียนชงกาแฟ พิจิตร รายละเอียดเพิ่มเติม

https://doichaangcoffee.co.th

 

ร้านกาแฟ อินทนิล

  • เรียนชงกาแฟ แฟรนไชส์อินทนิล

ธุรกิจอินทนิล” ได้รับความไว้วางใจในการส่งมอบความสุขในการดื่มกาแฟ ให้กับลูกค้ามาร่วม 10 ปี ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 400 สาขาทั่วประเทศ อีกทั้งร้านกาแฟอินทนิล ยังมีความพิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมียมเพื่อให้ผู้ที่รักการดื่มกาแฟและรักสุขภาพ ได้สัมผัสถึงรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะอีกด้วย

รายละเอียด : ร้านอินทนิล คอฟฟี่

  • ระยะเวลาให้สิทธิ 6 ปี
  • ค่าธรรมเนียมแรกเข้า (Franchise Fee) : 200,000 บาท
  • เงินค้ำประกันสัญญา : 100,000 บาท
  • ค่าออกแบบและจัดทำแบบก่อสร้าง : 50,000 บาท
  • ค่าบริการ Software ระบบ POS รายปี : 27,000 บาท
  • เงินลงทุนค่าอุปกรณ์การขาย และวัตถุดิบครั้งแรก : 450,000 บาท
  • การก่อสร้างและตกแต่งร้าน (ประมาณการ) : 1-2 ล้านบาท
  • ค่าส่วนแบ่งรายได้ (Loyalty Fee) 6% จากยอดขาย

ปล. มีการฝึกอบรม เรียนชงกาแฟ คู่มือการปฏิบัติการ และทีมงานที่สนับสนุน ให้คำปรึกษา

เรียนชงกาแฟ พิจิตร รายละเอียด เพิ่มเติม

http://www.inthanincoffee.com

 

ร้านกาแฟ rabika

  • เรียนชงกาแฟ แฟรนไชส์ Rabika Coffee

จากความหลงใหลและต้องมนต์เสน่ห์ของกลิ่นหอมอันเย้ายวนและรสชาติที่เยี่ยมยอดโดนใจของกาแฟพันธุ์ดี กลายมาเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟมาตรฐานสากล “RABIKA COFFEE” ซึ่งจากร้านกาแฟเล็กๆ 1 ร้าน กลายมาเป็นร้านกาแฟในรูปแบบแฟรนไชส์กว่า 100 สาขา โดยมีจุดเด่นที่สูตรลับเฉพาะโดดเด่นไม่เหมือนใคร และยากที่ใครจะเลียนแบบ

รายละเอียด : รูปแบบร้านแบ่งตามขนาดพื้นที่

  • ขนาด 36 ตร.ม. ราคา 1,560,000 บาท
  • ขนาด 48 ตร.ม. ราคา 1,695,000 บาท
  • ขนาด 60 ตร.ม. ราคา 1,795,000 บาท
  • เงินค้ำประกันสัญญา 50,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมรายเดือน 3,000 บาท
  • ค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ 1,000 บาท/เดือน
  • ค่าประกันวินาศภัย 1,826.49 บาท/ปี
  • เงื่อนไขสัญญา 3 ปี

ปล. ทุกขนาดมีอุปกรณ์ วัตถุดิบ การจัดหาพนักงาน การฝึกอบรม เรียนชงกาแฟ การจัดวางระบบบัญชี และการตรวจสอบให้ ขณะเดียวกัน สถานที่เช่าบางที่อาจมีค่าแรกเข้า

เรียนชงกาแฟ พิจิตร รายละเอียดเพิ่มเติม

https://www.rabikacoffee.com

 

เปิด ร้านกาแฟ coffee world

  • เรียนชงกาแฟ แฟรนไชส์ Coffee World

Coffee World เป็นร้านกาแฟระดับพรีเมี่ยมที่นำเสนอกาแฟหลากหลายทั้งร้อน เย็นและปั่น พร้อมด้วยอาหาร อาทิ วาฟเฟิล และแซนด์วิช นอกจากนี้ Coffee World ยังใส่ใจเป็นอย่างยิ่งในการเลือกและอบเมล็ดกาแฟอาราบิก้าชั้นดีเพื่อนำมาสร้างสรรค์เครื่องดื่มที่ปรุงโดยบาริสต้า (นักปรุงกาแฟมืออาชีพ) ที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี เพื่อนำเสนอเครื่องดื่มสูงด้วยคุณภาพ อีกทั้งกาแฟ Coffee World ยังเลือกใช้แต่วัตถุดิบที่สดใหม่มาปรุงเป็นเครื่องดื่ม แทนการใช้ส่วนผสมสำเร็จรูป

รายละเอียด : รูปแบบร้านแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ

  • Shop
    • ขนาดพื้นที่ 40-60 ตร.ม. ขึ้นไป : ตั้งอยู่ในอาคาร เช่น อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า อาคารพาณิชย์  แหล่งท่องเที่ยว
    • ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ : 400,000 บาท
    • ค่าประกันแบรนด์ : 200,000 บาท
    • ค่าดำเนินการก่อนเปิดร้าน : 50,000 บาท
    • ค่าสำรวจสถานที่ : 5,000 – 20,000 บาท
    • ค่าออกแบบร้าน : 80,000 – 120,000 บาท
    • ค่าอุปกรณ์ภายในร้าน : 800,000 – 1,000,000 บาท
    • ค่าก่อสร้างตกแต่งร้าน : 900,000 – 1,300,000 บาท
    • Loyalty fee + Marketing Fee 6% + 2% จากยอดขายรายเดือน
    • ค่าเช่าระบบ Software POS 12,000 บาท/ปี
    • อายุสัญญา 6 ปี (Renovate ร้านทุก 3 ปี)
    • รวมการลงทุน : 2,500,000 บาท (ไม่รวมภาษี)
  • Stand Alone
    • ขนาดพื้นที่ 100 ตร.ม. ขึ้นไป : อาคารเดี่ยว ตั้งอยู่บนที่ดินที่มีศักยภาพ มีที่จอดรถ
    • ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ : 400,000 บาท
    • ค่าประกันแบรนด์ : 200,000 บาท
    • ค่าดำเนินการก่อนเปิดร้าน : 50,000 บาท
    • ค่าสำรวจสถานที่ : 5,000 – 20,000 บาท
    • ค่าออกแบบร้าน : 100,000 – 150,000 บาท
    • ค่าอุปกรณ์ภายในร้าน : 900,000 – 1,200,000 บาท
    • ค่าก่อสร้างตกแต่งร้าน : 1,000,000 – 2,000,000 บาท
    • Loyalty fee + Marketing Fee 6% + 2% จากยอดขายรายเดือน
    • ค่าเช่าระบบ Software POS 12,000 บาท/ปี
    • อายุสัญญา 6 ปี (Renovate ร้านทุก 3 ปี)
    • รวมการลงทุน : 3,300,000 บาท (ไม่รวมภาษี)

ปล. ค่าดำเนินการก่อนเปิดร้าน หมายถึง ผู้ฝึกอบรม เรียนชงกาแฟ 5 คน (20,000 บาท), สื่อการตลาด (30,000 บาท) นอกจากนี้ยังได้รับ การตรวจสอบมาตรฐานร้าน และพนักงาน การฝึกอบรม พัฒนาการตลาด การส่งเสริมการขาย คู่มือการปฏิบัติ และอื่นๆ

เรียนชงกาแฟ พิจิตร รายละเอียดเพิ่มเติม

http://www.coffeeworld.com

เปิด ร้านกาแฟ black canyon

  • เรียนชงกาแฟ แฟรนไชส์ Black Canyon Coffee

จากจุดเริ่มต้นของกาแฟถ้วยแรก จนบัดนี้กาแฟหลายล้านถ้วยถูกเสิร์ฟให้กับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่องเป็นเครื่องยืนยันว่า “แบล็คแคนยอน” แบรนด์ที่แข็งแกร่งของคนไทยได้ก้าวไกลสู่ระดับสากล โดย “แบล็คแคนยอน” มีการเลือกใช้กาแฟคุณภาพสูงจากโครงการหลวง และนำเข้าจากแหล่งผลิตที่มีชื่อเสียงของโลก ผ่านกระบวนการคั่วเมล็ด โดยเครื่องคั่วกาแฟที่ทันสมัย กาแฟของ “แบล็คแคนยอน” จึงคงไว้ด้วยรสชาติ กลิ่น สี และความสดใหม่อยู่เสมอ

รายละเอียด : รูปแบบร้านแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ

  • รูปแบบภัตตาคาร / ร้านอาหาร (Coffee House) จำหน่ายกาแฟ เครื่องดื่ม และอาหาร แบ่งเป็น 2 ประเภท
    • ค่าโรยัลตี้ คำนวณ 3% จากยอดขาย หักค่าวัตถุดิบที่สั่งซื้อจากบริษัทฯ และมีการกำหนดผลตอบแทนขั้นต่ำต่อปี : 200,000 บาท
    • ค่าช่วยส่งเสริมการตลาด คำนวณ 2% จากยอดขายหักค่าวัตถุดิบที่สั่งซื้อจากบริษัทฯ
    • ค่าออกแบบประมาณ 80,000 –150,000 บาท หรือ 8 – 15% ของงบประมาณค่าตกแต่งสถานที่

1.1 Mini – Coffee House จำหน่ายเฉพาะกาแฟ เครื่องดื่ม อาหารว่าง อาหารจานเดียว อาหารประเภทยำ และมีขนาดของพื้นที่ประมาณไม่เกิน 100 ตารางเมตร

  • ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ : 800,000 บาท
  • ค่าประกันความเสียหายและหนี้สิน : 250,000 บาท

1.2 Full – Service Coffee House จำหน่ายกาแฟ เครื่องดื่ม อาหารทุกประเภท มีขนาดพื้นที่ประมาณ 100 – 150 ตารางเมตร

  • ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ : 1,000,000 บาท
  • ค่าประกันความเสียหายและหนี้สิน : 300,000 บาท
  • รูปแบบร้านกาแฟ (Coffee Corner / KIOSK) จำหน่ายเฉพาะกาแฟ เครื่องดื่ม และเบเกอรี่ ขนาดพื้นที่ประมาณ ไม่เกิน 50 ตารางเมตร
    • ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ : 600,000 บาท
    • ค่าประกันความเสียหายและหนี้สิน : 200,000 บาท
    • ค่าโรยัลตี้ คำนวณ 3% จากยอดขาย หักค่าวัตถุดิบที่สั่งซื้อจากบริษัทฯ และมีการกำหนดผลตอบแทนขั้นต่ำต่อปี : 100,000 บาท
    • ค่าช่วยส่งเสริมการตลาด คำนวณ 2% จากยอดขายหักค่าวัตถุดิบที่สั่งซื้อจากบริษัทฯ
    • ค่าออกแบบประมาณ 80,000 –150,000 บาท หรือ 8 – 15% ของงบประมาณค่าตกแต่งสถานที่

เรียนชงกาแฟ พิจิตร รายละเอียดเพิ่มเติม

http://www.blackcanyoncoffee.com

 

เปิด ร้านกาแฟ มวลชน

  • เรียนชงกาแฟ แฟรนไชส์กาแฟมวลชน

โครงการ “อบรมกาแฟ เรียนชงกาแฟ สร้างอาชีพ เพื่อสังคมและชุมชน” เป็นการจัดอบรมให้ความรู้และฝึกปฏิบัติให้กับประชาชนและองค์กรทั่วไป โดยไม่มีค่าใช้จ่ายและเงื่อนไขใดๆ เพื่อเป็นการยกระดับและส่งเสริมธุรกิจกาแฟ ให้เกิดการขยายตัวสร้างอาชีพอย่างยั่งยืนและในปัจจุบันได้มีการร้องขอจากสมาชิก พนักงาน ประชาชน ให้ช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจกาแฟ ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย สะดวก ประหยัดเวลา และการลงทุน จึงเกิดเป็น “แฟรนไชส์ร้านกาแฟมวลชน” ขึ้นมานั่นเอง

รายละเอียด : รูปแบบร้านแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ คือ

  • Type SS : 255,000 บาท (แบบคีออส)
  • Type S : 470,000 บาท ขนาดพื้นที่ 4-20 ตร.ม.
  • Type M : 655,000 บาท ขนาดพื้นที่ 21-60 ตร.ม.
  • Type L : 845,000 บาท ขนาดพื้นที่ 61-120 ตร.ม.

ปล. ทุกรูปแบบจะได้รับเครื่องและอุปกรณ์ พร้อมเข้ารับการอบรม และได้รับสูตรฟรี

เรียนชงกาแฟ พิจิตร ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

http://www.muanchoncafe.app-cpr.com

 

เปิด ร้านกาแฟ coffee a day

  • เรียนชงกาแฟ แฟรนไชส์กาแฟสด Coffee A Day

คอฟฟี่ อะ เดย์” แฟรนไชส์ร้านกาแฟสด ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคกว่า 10 ปี ที่เราเสริฟกาแฟ หอมละมุน เครื่องดื่มหลากหลาย พร้อมเบเกอร์รี่ และอาหารจานโปรด ให้คุณได้ลิ้มลองความอร่อยแบบมืออาชีพ สุดฟินไปกับบรรยากาศร้าน ที่นั่งแสนสบาย สวยทุกมุม เซลฟี่ปังๆ กับสไตล์ modern loft ที่เราตั้งใจคิดและสร้างสรรค์ไว้เพื่อคุณ
COFFEE A DAY ขยายธุรกิจสาขาแฟรนไชส์ เติบโตอย่างมั่นคงในทำเลที่มีศักยภาพทั่วประเทศ เรา ตระหนักดีในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่อำนาจซื้อของผู้บริโภคลดลงและถามหา “ความสมเหตุสมผล” ในการเลือกซื้อสินค้ามากขึน เราจึงมุ่งเน้นให้ผู้บริโภคทุกระดับอาชีพ ทุกระดับรายได้ ได้รับความพึงพอใจในสินค้าและบริการที่เหนือความคาดหวัง สมกับคำขวัญของแบรนด์ที่ว่า “Better Together” นโยบายของ COFFEE A DAY เราจึงให้ความสำคัญกับ “คุณภาพ” เพราะเป็นตำแหน่งที่มีความมั่นคงสำหรับสินค้า คุณภาพ คือความไว้วางใจในสินค้า ทำให้ผู้บริโภคมีทัศนคติที่ดีต่อคุณสมบัติของสินค้าและมีความซื่อสัตย์ต่อแบรนด์ สินค้าก็จะขายได้ขายดีอย่างสม่ำเสมอ และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภดได้จริงและมีประสิทธิภาพ

รายละเอียดงบประมาณการลงทุนแฟรนไชส์ COFFEE A DAY

  • ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ : 60,000 บาท มีอายุสัญญา 3 ปี (ชำระครั้งเดียว/ต่อสัญญาไม่เรียกเก็บอีก)
  • ค่าลิขสิทธิ์ : 15,000 บาท ต่อปี (เหมาจ่ายรายปี)
  • ค่าการตลาด : 15,000 บาท ต่อปี (เหมาจ่ายรายปี)

ค่าก่อสร้าง ตกแต่งร้าน ป้าย กราฟฟิค เฟอร์นิเจอร์ เครื่องมืออุปกรณ์ ฝึกอบรมพนักงาน จัดGrand Opening
และ อื่นๆ ครบครันทุกรายการพร้อมเปิดร้าน ตามขนาดพื้นที่ ดังนี้

ขนาดพื้นที่ 10 – 20 ตร.ม.

    • ราคา 500,000 ถึง 700,000 บาท (รวม VAT)
    • จำหน่ายเครื่องดื่ม เบเกอร์รี่ สินค้าพรีเมี่ยม สินค้าของฝาก

ขนาดพื้นที่ 30 – 100 ตร.ม.

    • ราคา 900,000 ถึง 2,500,000 บาท (รวม VAT)
    • จำหน่ายเครื่องดื่ม เบเกอร์รี่ อาหารว่าง อาหารจานเดียว สินค้าพรีเมี่ยม สินค้าของฝาก

สถานที่เปิดร้าน
ห้างสรรพสินค้า / พลาซ่า-ตลาด / อาคารสำนักงาน / อาคารพาณิชย์ / หน่วยงานราชการ / แหล่งท่องเที่ยว / จุดแวะพักรถ / พื้นที่ Stand alone เป็นต้น

  • ฟรี ค่าออกแบบ
  • ฟรี ค่าวัดและสำรวจพื้นที่หน้างาน
  • ฟรี ค่าเช่าระบบ Software / Hardware POS
  • ฟรี ค่าที่ปรึกษาธุรกิจและเจ้าหน้าที่ตรวจประเมินมาตรฐานร้าน
  • ฟรี วัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ ได้แก่ เมล็ดกาแฟ 10 กิโลกรัม, แก้วเครื่องดื่มขนาด 22 ออนซ์ พร้อมฝาปิด 1,000 ใบ, หลอดบรรจุซอง 1,000 หลอด, เสื้อยูนิฟอร์มพนักงานสวยหรู 4 ตัว และผ้ากันเปื้อน 2 ผืน

ปล. ราคาอาจปรับเพิ่ม-ลด ตามลักษณะพื้นที่หน้างานและระยะทาง

เรียนชงกาแฟ พิจิตร รายละเอียดเพิ่มเติม

http://coffeeaday.co.th

 

ขอบคุณ ข้อมูล จาก

https://www.siamarcheep.com

แต่ถ้างบ เปิดร้านกาแฟ มีจำกัด

ถ้าคุณต้องการเปิด ร้านกาแฟ พิจิตร แต่ งบประมาณ จำกัด

เราขอแนะนำ คอร์ส เรียนชงกาแฟ พิจิตร ที่เหมาะ กับ ผู้ต้องการ เริ่มต้น ธุรกิจส่วนตัว เปิด ร้านกาแฟ ขนาด เล็ก – กลาง ซึ่งคอร์ส ของเรา เป็นหลักสูตร เน้นการ เปิด ร้านกาแฟ พิจิตร ให้ยั่งยืน เป็นระบบ วัดผลได้

 

 

สูตร เปิดร้านกาแฟ แนวรุก

Coffee Bean

เมล็ดกาแฟคุณภาพ

Coffee Bean

สูตรชงกาแฟ

Coffee Bean

การตลาดแนวรุก

เมื่อกาแฟเจ้าใหญ่ลงตลาดเล็ก เจ้าเล็กๆ จะอยู่อย่างไร

ในสภาวะการแข่งที่ดุเดือนใน ธุรกิจร้านกาแฟ  ในเมืองทุกๆ 100 – 200 เมตร ก็จะมี ร้านกาแฟสด รวมทั้ง เจ้าใหญ่ๆก็กระโดดลงมาในตลาดเล็กๆด้วย เช่น ร้านสะดวกซื้อที่ทุกคนรู้จักกันดี ก็มีกาแฟสดขาย ด้วยเครื่องชงระบบอัตโนมัติ

ดังนั้น การเปิดร้านกาแฟ ขึ้นมาโดยที่ไม่มี ยุทธวิธี การตลาดเชิงรุก ก็ยากที่จะอยู่รอดจาก การแข่งขันที่ดุเดือด ของเจ้าใหญ่ๆ

เรียนชงกาแฟ พิจิตร สูตรของเราให้ความสำคัญกับ

เรียนชงกาแฟ เมล็ดกาแฟคุณภาพ
?

คลิกชม ด้านล่าง

เมล็ดกาแฟคั่วคุณภาพ

 

พื้นฐาน-เมล็ดกาแฟคั่ว

เรียนชงกาแฟ พิจิตร เราให้ความสำคัญกับ เมล็ดกาแฟคุณภาพ และ ขั้นตอนของการนำเมล็ดกาแฟคุณภาพนั้นไปคั่ว

รสชาติกาแฟที่ดี เริ่มต้นจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพ เมล็ดกาแฟ สด คั่ว สูตรพิเศษจาก โรงคั่วกาแฟคุณภาพ สำหรับ การ เรียนชงกาแฟ สูตรสำหรับเปิด ร้านกาแฟ พิจิตร ของคุณ

เราคัด เมล็ดกาแฟสด สายพันธ์ที่เหมาะสม นำมาคั่ว โดยสูตรเฉพาะ ใช้ เมล็ดกาแฟสด เต็มเมล็ดจาก กาแฟ สายพันธ์ดี เกรด A+ เลือกจาก แหล่งเพาะปลูก เมล็ดกาแฟสด ที่เหมาะสม ตามมาตรฐานความสูงระดับน้ำทะเล (ความสูงและแหล่งเพาะปลูกมีผลกับ คุณภาพเมล็ดกาแฟและราคา)

เครื่องคั่วเมล็ดกาแฟ

เมื่อได้เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพแล้ว วิธีการคั่วก็มีความสำคัญมาก เมล็ดกาแฟของเรา ผ่านวิธีการคั่ว โดย เครื่องคั่วที่มี คุณภาพ มาตรฐานสูง PROBAT จาก เยอรมัน ควบคุมด้วย คอมพิวเตอร์ ทำให้ เมล็ดกาแฟ ทุกเม็ด มีความเที่ยงตรง ให้รสชาติไม่เพี้ยน (คิดดูมันน่าเสียดายแค่ไหน ถ้าเรามี เมล็ดกาแฟที่ดี แต่วิธีคั่วไม่มีคุณภาพ ทำให้รสชาติออกมาไม่แน่นอน มีผลกับสูตรชง เราจึงใส่ใจกับขั้นตอนนี้มาก)

ระบบ คั่วเมล็ดกาแฟ

 หน้าตาโปรแกรมแสดงผลระดับการคั่วเมล็ดกาแฟ จากคอมพิวเตอร์

การคั่วเมล็ดกาแฟ คุณภาพ ไม่ใช่ ใครๆก็จะคั่วได้ โรงคั่วกาแฟ ของเรา ได้ผ่าน การอบรม ผ่านมาตรฐาน การคั่ว เมล็ดกาแฟ ได้ใบรับรอง certificate จาก 2 สถาบัน หลักระดับโลก คือ

คั่วเมล็ดกาแฟ-scaa-อเมริกา

 

SCAA หรือ Specialty Coffee Association of America เป็นสถาบันที่ออกใบรับรองสำหรับมืออาชีพด้าน การคั่วเมล็ดกาแฟ ที่คนในวงการ กาแฟ ทั่วโลกยอมรับ

สถาบัน คั่วเมล็ดกาแฟ IRS

สถาบัน Italian Roasting School (IRS) ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ในด้านการ คั่วเมล็ดกาแฟ และการเบลนด์เมล็ดกาแฟตามแบบอิตาเลี่ยน เพื่อสร้างกลิ่นหอมของกาแฟ ให้มีความเข้มข้นและรสชาติ กาแฟให้ กลมกล่อมในเวลาเดียวกัน ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ซับซ้อน (มาก) Italian style ซึ่งการคั่วแบบนี้จะต้องดึงเอกลักณ์ของตัวเมล็ดกาแฟออกมาให้ได้มากที่สุด

เมล็ดกาแฟเก่า

ความสดใหม่ มีความสำคัญ ต่อรสชาติกาแฟ

 

ต่อให้ เมล็ดกาแฟคั่ว คุณภาพดีแค่ไหน แต่ถ้าถูกคั่วแล้ว ทิ้งค้างไว้นาน ก็จะทำให้เสียคุณสมบัติ หลายอย่างไป กลิ่นของ เมล็ดกาแฟคั่ว เป็น เสน่ห์ ที่ทำให้ ทั้งคอกาแฟ และ คนรอบข้างนั้นหลงใหล ชวน ให้อยากลิ้มลองรสชาติ

จะเป็นอย่างไร ถ้าคุณเจอ เมล็ดกาแฟคั่ว ค้างนาน ที่ซื้อมาจากชั้นวางสินค้า ทุกอย่างจะตรงกันข้ามกันเลย ทีเดียวครับ ง่ายๆก็ คือ กลิ่นหาย ดื่มแล้วไม่สดชื่น (ไม่ดีด )  ซวยสุด คือ เปิดเจอกลิ่นเหม็นหืน & ขึ้นรา

เมล็ดกาแฟคั่ว ของเราผลิตใหม่สด ทุกล็อต จากโรงคั่ว และ จัดส่งตรงถึงมือ ร้านกาแฟที่ เรียนชงกาแฟ กับเรา ได้ทั่วประเทศ ทำให้ร้านกาแฟ ของคุณได้รับ เมล็ดกาแฟคั่ว ที่สดใหม่ มาครบทั้ง กลิ่นหอมเมล็ดกาแฟคั่ว และ รสชาติกาแฟแท้ๆ ที่รับรองได้ว่า คาเฟอีน ใหม่ๆสดๆดีด แน่นอน

ที่กล่าวมา คุณจะเห็นได้ว่า เมล็ดกาแฟคั่ว คุณภาพ

เมล็ดกาแฟคั่วสด

เราคัดสรรค์ วัตถุดิบ และ เทคโนโลยี่ พร้อมมาตรฐาน คุณภาพสูง เพื่อให้ลูกค้า ที่ร้านกาแฟ ของคุณเข้าถึง รสชาติกาแฟแท้ๆ ที่ไม่แตกต่างจาก ร้านกาแฟดังๆ

เรียนชงกาแฟ สูตรชงกาแฟนมข้น
?

คลิกชม ด้านล่าง

สูตรชง กาแฟ ชา โกโก้

สูตรนม-ชงกาแฟ

เรียนชงกาแฟ พิจิตร ของเราให้ความสำคัญ กับสูตรชง เมื่อเราได้ วัตถุดิบ เมล็ดกาแฟคั่ว ที่มีคุณภาพ เมื่อนำมาผสม สูตรการชง ในแบบ เมนูกาแฟสากล ต่างๆ จะทำให้รสชาติของกาแฟนั้น ออกมาเข้มข้น เข้าถึงรสชาติกาแฟสด

 

สูตรชงกาแฟ-เครื่องดื่ม

 สูตรเมนู กาแฟ สากล

  • สูตรชงกาแฟ เอสเปรสโซ่ ร้อน เย็น ปั่น
  • สูตรชงกาแฟ อเมริกาโน่ ร้อน เย็น ปั่น
  • สูตรชงกาแฟ คาปูชิโน่ ร้อน เย็น ปั่น
  • สูตรชงกาแฟ ลาเต้ ร้อน เย็น ปั่น
  • สูตรชงกาแฟ มอคค่า ร้อน เย็น ปั่น

สูตรอื่นๆ

  • โกโก้  ร้อน เย็น ปั่น
  • ชา  ร้อน เย็น ปั่น

* สูตรการชงมีความสำคัญมากเพราะสัดส่วนของวัตถุดิบต่างๆมีผลต่อรสชาติ ไม่ว่าจะ เมล็ดกาแฟ โกโก้ ชา มีคุณภาพดีแค่ไหน แต่ถ้าสัดส่วนสูตรชง ไม่เหมาะสม ก็จะทำให้รสชาติเสียไปอย่างน่าเสียดาย

 

เครื่องชงกาแฟ ขนาดเล็ก

เรียนชงกาแฟ พิจิตร เราได้คิดค้นสูตร การคั่วเมล็ดกาแฟ และ สูตรการชง ให้รองรับ และ เหมาะสมกับ เครื่องชงกาแฟขนาดเล็ก – กลาง – ใหญ่ เพื่อเหมาะกับ การเปิดร้านกาแฟ ของคุณ

สำหรับคนที่ทุนน้อย แนะนำ เครื่องชงขนาดเล็กไปก่อน ถึงแม้เครื่อง ชงจะขนาดเล็ก แต่ด้วยสูตรและเมล็ดกาแฟคั่วเฉพาะ ของเรา จะทำให้รสชาติของกาแฟ ที่ออกมาไม่แพ้  เครื่องใหญ่แน่นอน

ถ้ามีลูกค้าเยอะขึ้น มีทุนทรัพย์มากขึ้น ค่อยเปลี่ยนเป็นเครื่องระดับกลาง ครับ

สูตรเมล็ดกาแฟคั่วสำหรับเครื่องชงกาแฟเล็ก

เรียนชงกาแฟ พร้อมการตลาดเชิงรุก
?

คลิกชม ด้านล่าง

การตลาดเชิงรุก

ประกาศ เปิดร้านกาแฟ

  เรียนชงกาแฟ พิจิตร ให้ความสำคัญกับ การตลาดเชิงรุก

 

เราจะไม่รอ ให้คนเดินเข้ามาหาเราเอง แต่เรา ต้องหาวิธี ให้ คอกาแฟ รู้จัก ร้านกาแฟของเรา และได้ ลองชิม กาแฟของเรา

เมื่อเราได้ วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ + รสชาติสูตรชงกาแฟ เครื่องดื่ม ที่อร่อยลงตัว เมื่อเราซ้อมทำจนเกิดความชำนาญจนมั่นใจ ก็ถึงเวลาที่เราต้องเชิญชวนให้ผู้คนมาลิ้มลอง

อย่าลืมนะว่า การตลาดเชิงรุก ก็เป็นดาบ 2 คม คือ ถ้ารสชาติกาแฟของเราโดนใจ เขาจะจดจำ และบอกต่อคนใกล้ๆตัว แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้ารสชาติแย่ เขาก็บอกต่อ ว่าอย่ามากินร้านนี้เลย ไม่ได้เรื่อง ซึ่งมันก็เป็นปกติ

ดังนั้นก่อนจะทำการตลาดเชิงรุก เราต้องซ้อมจนมั่นใจว่า เราชำนาญการชงกาแฟแล้ว

 

ป้ายร้านกาแฟ

เปิดร้านกาแฟใหม่ๆ อันดับแรกก็ต้องมีชื่อ และป้าย ร้านกาแฟ เพื่อให้ผู้คนได้รู้ว่าที่นี่เป็น ร้านกาแฟ และ ต้องใช้สื่อการตลาดเชิญชวนผู้คนให้มาร้านกาแฟของคุณ

 

คุณต้องวางแผนก่อนลงมือ เปิดร้านกาแฟ

 

1. ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ คือ ใคร มีจำนวนประมาณเท่าไหร่ ?

2. ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายนอก พื้นที่ คือ ใคร มีจำนวนประมาณเท่าไหร่ ?

3. จะทำอย่างไรให้เขารู้ว่า มีร้านกาแฟของเราอยู่ที่นี่

4. จำนวนร้านคู่แข่งของคุณ มีจุดเด่นอะไร จุดด้อยอะไร

ชอบกินกาแฟ

คนที่ชอบกาแฟหลักๆมีอยู่แค่ 3 ประเภท

1. ชอบรสชาติของกาแฟ

– เป็นคนที่ ชอบกาแฟ หรือ ติดกาแฟ คาเฟอีนช่วยทำให้เขา ตื่นตัว ซื้อเสร็จ ไปเลย กินในรถเพื่อเดินทางไปทำงาน หรือซื้อไว้เพื่อกินตอนกลางวันที่ทำงาน

2. ชอบบรรยากาศของ ร้านกาแฟ พักผ่อน ทำงาน

– ชอบมานั่งดูบรรยากาศ ถ่ายรูป นัดลูกค้ามาคุยงาน มานั่งเปิดคอมทำงาน  เน้นมีที่ให้นั่ง

3. ชอบทั้ง 2 อย่าง

บรรยากาศ-ร้านกาแฟ

ดังนั้น คุณต้องคิดก่อนว่า คุณจะเปิดร้านกาแฟ เพื่อกลุ่มเป้าหมายลูกค้าแบบไหน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับทำเล และ ทุนในการที่จะเปิดร้านกาแฟของคุณ

 

แต่ที่ เรียนชงกาแฟ พิจิตร เราเน้นจะเป็น ร้านขนาดเล็ก – กลาง ที่ต้องการทำธุรกิจ ร้านกาแฟ เพื่ออยู่รอดมีรายได้ เราเน้นลูกค้าที่ ชอบกาแฟ ติดรสชาติกาแฟ เพราะจุดเด่นของเรา คือ เรื่องของรสชาติของกาแฟของเรา

แต่ถ้าคุณมีงบประมาณ สร้างร้านสร้างบรรยากาศให้คนนั่ง ถ้ายรูป นั่งทำงาน ด้วยก็ สามารถทำได้

การตลาด ร้านกาแฟ

 เครื่องมือการตลาดที่หลากหลาย

 

สมัยนี้มีเครื่องมือตลาดมากมายที่เข้าถึงผู้คนได้ง่ายกว่าเมื่อก่อน และเชื่อว่าคุณหลายคนก็เคยใช้มาบ้าง แต่เครื่องมือทางการตลาดยุคใหม่นี้ ก็มีจุดเด่น จุดด้อย เรียนชงกาแฟ จึงอยากให้คุณ เข้าใจการใช้งานของมันด้วย

ปัจจุบันผู้คนใช้ internet ทางมือถือ เล่น facebook เล่น line กันทุกวัน เราจึงต้องมีแผนการเชิงรุกเพื่อโปรโมท ร้านกาแฟให้ลูกค้า ของเราได้รู้จัก

อันดับแรก

1. คุณต้องมี เว็บไซต์

2. เพจร้านกาแฟ facebook

3. Line@ร้านกาแฟ ไว้เก็บข้อมูลลูกค้า

นำเว็บเข้าไปเชื่อโยง โซเชียลเน็ตเวิร์ก และ ปักหมุด ลง google map

เมื่อมีคนค้นหาคำว่าร้านกาแฟใกล้ฉัน ถ้าเขาอยู่ใกล้คุณ ร้านกาแฟของคุณก็จะแสดงให้เขาเห็น

 

ทำไมต้องมีเว็บ ใช้ face ใช้ line ไม่ได้หรอ ?

 

ถามว่าได้ไหม ตอบว่าได้ แต่มันเป็นการใช้งานผิดประเภท มันจึงไม่ได้ผลเต็มที่ แต่มันจะเป็นองค์ประกอบกันหลังจากเรามีเว็บแล้ว

เว็บไซต์มีไว้เพื่อ ให้ลูกค้าได้เห็น ข้อมูลต่างๆ ของร้านของเรา โดยเฉพาะจุดเด่นของร้านของเรา เพื่อให้เขาเกิดความสนใจ และ แวะมาลองซื้อกาแฟของเรา

สมัยนี้ข้อมูล ข่าวสาร ทั้งใน facebook ใน line ของแต่ล่ะคน เยอะแยะ ลูกค้าไม่มีเวลามาเลื่อนดู เลื่อนหา ข้อมูลในเพจ ถ้าไม่ได้อยากรู้ หรือ สนใจจริงๆ

ทำเว็บร้านกาแฟ

ดังนั้น การที่เราจะนำเสนอนั้นต้องตรงประเด็นให้เร็วที่สุด ให้ลูกค้าเปิด และ หยุดอ่านแล้วให้เกิดแรงดึงดูดอยากจะมาร้านกาแฟของคุณ เว็บจึงเป็นคำตอบ เพราะเราจะนำเสนอ ว่าร้านกาแฟของคุณ ใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพ ระดับพรีเมี่ยมเกรด ไม่ใช่เอาเมล็ดกาแฟ คั่วบดเกรดถูกๆแล้วใช้รสนมกลบเกลื่อนแล้วมาชงให้ลูกค้ากิน เราสามารถใส่ข้อมูล ภาพ ข้อความ คลิป และ แผนที่ร้าน ได้ทั้งหมดในเว็บ

นามบัตรแจกแบบเก่าแต่ได้ผลแบบใหม่

 

เมื่อคุณมีเว็บแล้ว เช่น ร้านกาแฟ acoffee.com เราก็จะทำเป็น นามบัตร ที่จะแสดง QR code ซึ่งมือถือแสกน ก็จะเข้าไปในเว็บ ให้ลูกค้าเห็น ข้อมูลร้านกาแฟของคุณได้ทันที

ร้านกาแฟ-นามบัตร

ซึ่งนามบัตรนี้เราจะเอาไว้แจกกลุ่มเป้าหมายทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่(แจกให้เยอะที่สุด) แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าได้ผลมีคนเปิดเข้ามาดูเว็บไหม

คนเข้าเว็บ ร้านกาแฟ

 โปรแกรมเช็คคนเข้าเว็บ ร้านกาแฟ

 

เราจะมีโปรแกรม ดูว่ามีคนเข้าเว็บ วันนี้กี่คน เช่นเราแจก ไป 500 ใบ เราก็กลับมาเช็คว่า ที่แจกไป 500 คน มีคนเปิดเว็บกี่คน

และวันต่อๆมาเมื่อมีลูกค้าเริ่มเข้าร้านกาแฟของคุณ พยายามให้ลูกค้า @line และ เพจ facebbok ของร้านของคุณ โดยการจัดโปร ถ้าแอดมีส่วนลด 5 บาท ทำอย่างนี้กับลูกค้าทุกคน ไปเรื่อยๆ

คุณจะเริ่มมีฐานลูกค้า และในนามเจ้าของร้าน ควรเข้าไปทักทาย และขอบคุณลูกค้าใน line หรือ face รับคำติชมแล้วนำมาแก้ไข

และใน line ของคุณ คุณควรบันทึก ความชอบของลูกค้าแต่ล่ะคนไว้ เช่น คุณ แป้ง ชอบหวานน้อย คุณ ส้มชอบหวานมัน คุณ เต๋า กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล

การที่เราจดจำรสชาติของลูกค้าได้ เป็นความใส่ใจที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจ และ ยังมีข้อมูล ถ้าวันใดเรามีลูกจ้าง เราให้เขาดูข้อมูลทางนี้ ลูกจ้างจะได้ทำถูกใจลูกค้า

ข้อมูลใน Line@ นี้ ถือว่าเป็น ฐานข้อมูล ที่สำคัญมาก เพราะจะบงบอกถึง จำนวนลูกค้าในร้านของเรา และยังแบ่งกรุ๊ป เป็น ระดับ ลูกค้าประจำvip หรือนานๆมาซื้อที เราจะได้ให้ความสำคัญได้อย่างถูกต้อง

 

เมื่อฐานลูกค้าเยอะขึ้น คุณจะสามารถแจ้ง โปรโมชั่น ที่สำคัญ ใน Line ได้ โดยการส่งข้อความ ภาพ พร้อมกัน เช่น โปรลด 50% เพียงคุณ แชร์ เว็บของร้านเราไปที่ facebook ของคุณให้เพื่อนๆของคุณรู้จักร้านของเรา

ซึ่งโปรแบบนี้ เหมาะกับการเพิ่มฐานลูกค้ารายใหม่ๆ แต่เราต้องมีฐานลูกค้าหลักเยอะพอสมควรถึงจะได้ผลดี

นี้ คือ กลุ่มเป้าหมาย ในเขตพื้นที่ ที่เราแจกนามบัตร

และ ต่อมาเรา จะทำการตลาด ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายนอกพื้นที่ เช่น ซอยที่อยู่ ถัดๆไปจากร้านเรา หรือ บริษัทใกล้ๆ ที่พนักงานขับรถผ่านร้านเราได้ หรืออื่นๆ ขึ้นอยู่กับทำเลและความคิดสร้างสรรค์ ของคุณ

 

โฆษณาร้านกาแฟ

 

ขั้นตอนนี้ เพจ facebook จะบทบาท เพราะคุณจะต้องใช้ เงินเพื่อ โฆษณา ใน facebook หลักการก็จะคล้ายกับการแจกนามบัตร แต่ครั้งนี้เราจ้าง facebook ช่วยแจกให้ โดยการลงโฆษณาและlink เว็บ ของร้านกาแฟของเรา เลือกพื้นที่ที่จะให้คนมองเห็น โฆษณาของเรา อาจจะเลือกเป็น รัศมีจากร้านของเรา 5 – 10 กิโลเมตร

สามารถเลือก เพศ อายุ ความชอบ ของกลุ่มเป้าหมายได้ เมือทำโฆษณาออกไปแล้ว คอยดูผลลัพธ์ว่า ลูกค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้นบ้างไหม

ถ้าทำแล้วได้ผลก็จะเห็นว่ามีลูกค้าหน้าใหม่ๆ เข้ามาที่ร้าน ก็อย่าลืมเก็บลูกค้าเข้า Line@ ด้วยนะครับ

 

สรุปการทำตลาด ร้านกาแฟเชิงรุก

 

1.เปิดร้านกาแฟ ติดป้ายชื่อร้านให้คนในพื้นที่รู้

2.ทำเว็บ ร้านกาแฟ เชื่อมโยงกับ เพจ facebook ,line,google map

3.ทำนามบัตร QR CODE ให้ลูกค้าเข้าเว็บ แจกกลุ่มเป้าหมายอย่างน้อย 500 – 1000 ใบ

4.เช็คว่ามีคนเข้าเว็บมาอ่านบ้างไหม ลูกค้าเพิ่มขึ้นบ้างไหม

5.ลูกค้าเข้าร้านครั้งแรก เชิญให้เข้า Line@ เพื่อรับโปรโมชั่น

6.เมื่อลูกค้าเริ่มเยอะ 100 ขึ้นไป จัดโปร แชร์ลง facebook

7. ทำโฆษณา ขยายกลุ่มลูกค้านอกพื้นที่ ด้วย facebook AD

8. ทำขั้นตอนที่ 3 ถึง 7 ซ้ำๆ จนกว่าได้ปริมาณลูกค้าเป็นที่พอใจ

9. เมื่อได้ลูกค้ามาแล้ว รักษา คุณภาพ บริการ ให้ดีขึ้น ใครเป็นลูกค้าประจำก็ปรับเป็น vip ให้ขนมแกล้มตอนเข้ามาซื้อกาแฟ

 

ทำขั้นตอนที่ 3 – 9 ซ้ำๆ ถ่าย รีวิว รูปสวยๆ ลง เพจ facebook เรื่อยๆ ถ้าปริมาณลูกค้าเพิ่มขึ้น ควรเตรียมตัว เพิ่มความสามารถในการชงให้มากขึ้น เร็วขึ้น ปรับเปลี่ยน หรือเพิ่มเครื่องชงให้มีความสามารถรองรับลูกค้า และพนักงานชง ให้เหมาะสมกับปริมาณลูกค้า

 

แนะนำสำหรับร้านเล็กทุนน้อย คุณต้องวางแผนการเงินไว้ ขยายร้านด้วย

 แผนการเงินร้านกาแฟ

จากเบื้องต้น การทำการตลาดเชิงรุก ใช้เวลา 2 – 6 เดือนจะเริ่มเห็นผล เห็นลูกค้าเพิ่มขึ้น คุณต้องวางแผนการหาทุนเพื่อขยายร้านไว้ด้วย

 

โดยการ

1. จดทะเบียนพาณิชย์ ประเภท ร้านกาแฟ ตั้งแต่เริ่มต้น

2. ทำบัญชี รายรับรายจ่าย ถ้าเป็นไปได้ ฝากเงินเข้ากับบัญชีธนาคาร เพื่อทำ ทำสเตทเม้น ทำให้เป็นระบบ แบบนี้ 6 เดือนขึ้นไป

3. หลังจาก 6 เดือน นำทะเบียนพาณิชย์ ภาพถ่าย หน้าร้าน สเตทเม้น 6 เดือน บัญชีรายรับรายจ่าย เดินเข้าไปหาสินเชื่อธนาคาร (ไปหลายๆธนาคาร เพื่อเปรียบเทียบ วงเงิน ดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อน)

4. ธนาคารจะดู ความเหมาะสม ของยอดเงินที่จะให้กู้ ขั้นตอนนี้เรา สามารถต่อรองได้ ดอกเบี้ย เงินต้นที่ต้องจ่าย ระยะเวลาผ่อน ในขณะที่ต่อรองคุณก็ให้ธนาคารดู ข้อมูลรายชื่อ ลูกค้าที่อยู่ใน Line@ ให้ธนาคารดู เพื่อทำให้เขาเห็นว่า เรามีลูกค้าจริงๆ มีลูกค้าประจำ มีลูกค้า vip และ จัดทำข้อมูลเป็นระบบ

โอกาสที่ธนาคารจะปล่อย สินเชื่อ ก็จะง่ายขึ้น เมื่อได้เงินมาแล้ว ก็นำมาปรับปรุงเพิ่มความสามารถให้ ร้านกาแฟของคุณ รองรับลูกค้าให้ได้มากขึ้น

และ ทำบัญชี รายรับ รายจ่าย ส่งต้น ส่งดอกธนาคาร ตามระบบ เวลาผ่านไป เครดิตเงินกู้ของคุณ จะเพิ่มมากขึ้น เอาไว้เป็น ทุนสำรอง เมื่อยามจำเป็นต้องใช้เงิน หรือ เพิ่มสาขาร้านกาแฟ ให้มากขึ้น เพื่อขยายธุรกิจของคุณ

ร้านกาแฟ-เปิดใหม่

   บทสรุป ถ้าคุณอ่านมาถึง ย่อหน้าสุดท้าย

จะเห็นได้ว่า ทุกขั้นตอน ในการ เปิด ร้านกาแฟ พิจิตร นั้นมีความสำคัญ จึงต้องวางแผนให้รอบคอบ เพราะถ้าคุณไม่ทำ ร้านกาแฟ คู่แข่ง หรือ ร้านอื่นๆ เขาทำ คุณก็สู้เขาไม่ได้ เปิดร้านมาเพื่อรอวันปิด เสียทั้ง เงิน เสียทั้งเวลา เสียความรู้สึก

หวังว่า คอร์ส เรียนชงกาแฟ พิจิตร ของเราจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ คุณ สามารถ เปิดร้านกาแฟ เป็น ธุรกิจ ที่สร้างรายได้ ได้อย่างยั่งยืน

ถ้าคุณได้อ่าน เนื้อหา ทั้งหมด ของการเริ่มต้น เปิดร้านกาแฟ

 

 

 

 

คุณน่าจะรู้แล้วว่า คุณ อยากจะเปิดร้านกาแฟ อยู่หรือไม่ !

 

 

 

 

เรียนชงกาแฟที่บ้าน

ด้วยสถานการณ์ โรคระบาด covid 19 วันนี้ ยังคงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ  ทำให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีผู้ที่สนใจเข้ามาเรียน สูตรชงกาแฟ จำนวนมาก และ ทาง ผู้สอน ต้องปฎิเสธ งดการสอน ทั้งในสถานที่และนอกสถานที่ ต้องขออภัย ด้วยครับ

————————————————–

! สำหรับผู้ที่สนใจ จริงๆเท่านั้น

ถ้าคุณได้อ่านเนื้อหา ของเราจนจบคุณจะเห็นได้ว่าเรานำเสนอ แนวทางการเปิดร้านกาแฟให้อยู่รอด ลงทุนเริ่มต้นไม่สูง

แต่เคล็ดลับ สำคัญ คือ สูตรเมล็ดกาแฟคั่ว และ สูตรการชง เพื่อให้ได้ คุณภาพของ รสชาติกาแฟ ไม่แพ้ ร้านกาแฟ ดัง  และ เครื่องชงที่เราแนะนำในการเริ่มต้น

คอร์สเรียน สูตร ชงกาแฟนี้ เราจัดทำเป็น Ebook พร้อมคลิป vdo สอน คุณสามารถ เรียนรู้และทำตามได้ทุกที่ ไม่ต้องเดินทางให้เสียเวลาและลดความเสี่ยงกับโรคระบาด

Ebook พร้อมคลิป vdo สูตร ชงกาแฟนี้ เหมาะกับใคร

– ผู้ที่สนใจเริ่มต้น เปิดร้านกาแฟขนาดเล็ก ในงบประมาณที่จำกัด

– ผู้ที่ต้องการ ชงกาแฟสด ทานที่บ้าน เพื่อให้ได้รสชาติกาแฟ ใกล้เคียงกับร้านกาแฟดังๆ (ประหยัดตังได้เยอะเลย)

– ผู้ที่สนใจ ทั่วไป

นื้อหาใน Ebook มีอะไรบ้าง

1. แนะนำ เครื่องชงกาแฟสดขนาดเล็กที่ต้องใช้ สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้เลย มีร้านแนะนำ ในงบไม่เกิน 4,000 บาท พร้อม คลิปสาธิตการใช้งาน

2. สูตร ชงกาแฟ

สูตรเมนู กาแฟสด สากล

  • สูตรชงกาแฟ เอสเปรสโซ่ ร้อน เย็น ปั่น
  • สูตรชงกาแฟ อเมริกาโน่ ร้อน เย็น ปั่น
  • สูตรชงกาแฟ คาปูชิโน่ ร้อน เย็น ปั่น
  • สูตรชงกาแฟ ลาเต้ ร้อน เย็น ปั่น
  • สูตรชงกาแฟ มอคค่า ร้อน เย็น ปั่น

บอกขั้นตอนพร้อม คลิป แต่ละเมนู สามารถทำตามได้เลย

แถม สูตรชง อื่นๆ
– โกโก้  ร้อน เย็น ปั่น
– ชา  ร้อน เย็น ปั่น

 

* สูตรการชงมีความสำคัญมากเพราะสัดส่วนของวัตถุดิบต่างๆมีผลต่อรสชาติ ไม่ว่าจะ เมล็ดกาแฟ โกโก้ ชา มีคุณภาพดีแค่ไหน แต่ถ้าสัดส่วนสูตรชง ไม่เหมาะสม ก็จะทำให้รสชาติเสียไปอย่างน่าเสียดาย

3. เมล็ดกาแฟคั่วสูตรพิเศษ สำหรับ เครื่องชงขนาดเล็ก 1 ถุง ปริมาณ ครึ่งกิโลกรัม

 

โปรพิเศษ เมื่อสั่งซื้อวันนี้ แถมฟรี

– แนะนำแนวทางการตลาดออนไลน์ฟรี เมื่อเปิดร้านกาแฟ

ทั้งหมดนี้ เป็นสูตรเดียวกับที่ คอร์สเรียน ราคา 5,900 บาท ที่สอนตัวต่อตัว 

 

Ebook คอร์สเรียน สูตร ชงกาแฟสด ราคา เพียง 990 บาท

ส่งให้คุณดาวโหลดใน Email ได้ทันทีพร้อมกับ ส่งเมล็ดกาแฟคั่วสูตรพิเศษ ให้คุณเมื่อคุณพร้อม 

 

ราคา Ebook วันนี้

ติดต่อ สั่งซื้อ คลิกที่ ปุ่ม Line ทักเข้ามาว่าต้องการซื้อ Ebook

โปรโมชั่นพิเศษสำหรับเดือนนี้เท่านั้น

วัน(s)

:

ชั่วโมง(s)

:

นาที(s)

:

สอง(s)

Line:

@skythailand

Address

เรียนรู้เองได้ทุกที่ด้วย Ebook